กินดีไม่มีขาดวิตามิน
วิตามินนั้นนับได้ว่าเป็นสารอาหารที่สำคัญอย่างหนึ่งที่จะช่วยให้เรามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง
แต่การรับประทานอาหารซ้ำๆ ซากๆ นั้นส่งผลร้ายที่คุณไม่คาดคิดคือการขาดวิตามิน
ดังนั้นวันนี้เราจะมาแนะนำกันว่าเลือกทานอย่างไรไม่ให้ขาดวิตามิน
วิตามินเอจะมีอยู่ในตับ,
ไข่แดง, ผลิตภัณฑ์จากนม, ปลาเนื้อมัน, เนื้อ, ผักสีเขียวและเหลือง โดยมันจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพก็ต้องจับคู่กับสังกะสีและวิตามินอี
ซึ่งได้จากไขมัน เพื่อให้ร่างกายดูดซึมวิตามินเอได้ดี
นอกจากนี้ยังมีมากในผักใบเขียว ซึ่งมักสูญเสียไปหนึ่งในสามหากโดนออกซิเจนและแดด
สำหรับผู้ที่ขาดวิตามินเอจะมีผิวที่แห้งและหยาบกระด้าง
รวมทั้งเล็กแตกเปราะง่ายและมีจุดขาวๆ นอกจากนี้หากขาดมากๆ
จะส่งผลให้มองไม่เห็นตอนกลางคืนและยิ่งขาดไปนานๆ
ก็จะลามไปจนถึงขั้นตาบอดได้เลยทีเดียว
วิตามินบี 1 พบมากในถั่วชนิดต่างๆ รวมไปทั้งข้าวกล้อง, รำข้าว,
เนื้อหมูและไข่
แต่จะถูกทำลายลดได้อย่างง่ายดายเมื่อเจอกับความร้อนและออกซิเจนหรือระหว่างการหุ่งต้มนั้นก็ทำให้สูญเสียวิตามินไปแล้วถึง
30% เลยทีเดียว ดังนั้นจึงไม่ควรล้างนานหรือหันมาใช้วิธีนึ่งแทนจะดีกว่า
ขณะอาการผู้ที่ขาดวิตามินชนิดนี้นั้นจะทำให้การเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตไม่ดี,
เบื่ออาหาร, หงุดหงิดง่าย, อ่อนเพลีย, ขาดสมาธิและคันแข้งคันขา
นอกจากนี้หากขาดจำนวนมากก็จะส่งผลให้หัวใจอ่อนแรงและกล้ามเนื้อเป็นแผลได้
วิตามินบี 2 มีมากในตับ, เนื้อไก่, นม, ไข่และธัญญาพืช
แต่มันสูญเสียไปได้ง่ายในน้ำ ดังนั้นเราจึงควรรับประทานน้ำต้มของมันเข้าไปด้วย
ขณะที่แสงไฟจะเป็นตัวทำลายวิตามินชนิดนี้ทำให้เราควรเก็บเอาไว้ในที่มืด
ส่วนอาการขาดวิตามินบี 2 จะเป็นแผลที่มุมปาก,
ลิ้นและเยื่อปากอักเสบและเป็นโรคโลหิตจาง
นอกจากนี้ผู้ที่ทานยาเม็ดคุมกำเนิดและยาต้านโรคซึมเศร้าจะทำให้ขาดวิตามินตัวนี้ได้เช่นกัน
วิตามินบี 3 อุดมอยู่ในปลาเนื้อมัน, เนื้อไก่, ตับและถั่ว แต่การทานยา
L-Dopa พาราเซตามอลหรือ Diazepem
และทานมังสวิรัติหรือรับโปรตีนเข้าสู่ร่างกายน้อยอาจมีโอกาสทำให้ร่างกายขาดวิตามินชนิดนี้สูงขึ้น
ซึ่งจะทำให้มีอาการซึมเศร้า, ผิวแตกแห้ง, อ่อนเพลียและนอนไม่หลับ
วิตามินบี 5 อยู่ในผักเกือบทุกชนิดรวมไปถึงผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์,
เครื่องในสัตว์, ปลา, ไข่แดง, ผักสีเขียวและธัญญาพืช
แต่มันอาจสูญเสียไปได้ถึงครึ่งต่อครึ่งจากการแช่แข็ง
ดังนั้นเราจึงควรทานอาหารสดอย่างสม่ำเสมอ ส่วนผู้ที่ขาดวิตามินตัวนี้จะมีอาการอ่อนเพลีย,
กล้ามเนื้อกระตุกเกร็ง, คลื่นไส้, ปวดท้องและปวดศีรษะ
วิตามินบี 6 พบได้ในเนื้อสัตว์, เป็ด, ไก่, วัว, หมู, ไข่, ปลาและนม
แต่วิตามินชนิดนี้ควรเก็บรักษาไม่ให้โดนแสงแดดและความร้อน
ขณะที่อาการของผู้ขาดวิตามินตัวนี้จะนอนไม่หลับ, ติดเชื้อง่าย, อ่อนเพลีย,
มีปัญหาผิวพรรณ, ปากแห้งแตก, ลิ้นและปากอักเสบ
แต่จะไม่พบในผู้ดีมีสุขภาพดีโดยทั่วไป